
“กรีนอินโนเวท”
“กรีนอินโนเวท” มืออาชีพด้านผักปลอดสาร ผลิตผักไฮโดรฯ จากปากช่องป้อนตรงสู่ครัวไทย
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบสินค้าเกษตร “ปากช่อง” จังหวัดนครราชสีมา คือ หนึ่งในสิบกว่าหมุดหมายที่กรมส่งเสริมการเกษตรยกให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่น่าเที่ยว โดยอำเภอปากช่องเป็นอำเภอที่มีพื้นที่ถึง 1,825 ตร.กม. ใหญ่ที่สุดใน 32 อำเภอ ของจังหวัดนครราชสีมา ทำเกษตรกรรมมากเป็นอันดับ 2 รองจากอุตสาหกรรม มีฟาร์มที่น่าสนใจหลายแห่ง มีภูมิทัศน์ที่งดงาม และ ผลผลิตทางการเกษตรรสชาติโดดเด่นที่ใครได้ลิ้มลองต้องยกนิ้วให้
อย่างหนึ่งที่แม้ว่าจะมีการปลูกมากในหลายพื้นที่อย่าง “ผักไฮโดรโปนิกส์” แต่ที่ให้รสชาติอร่อย มีคาแรกเตอร์ชัดเจน หลายเสียงก็ยกมือให้ผักจากปากช่องครองใจแบบเป็นเอกฉันท์
ในงาน “Food & Wine Festival Celebrating Korat GI” เมื่อวันที่ 14-16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา “คุณเอ้-ดร.กัญจน์คหัฐ ปิยะกาญจน์” กรรมการผู้จัดการ กรีนอินโนเวท ถือโอกาสยกฟาร์มผักไฮโดรโปนิกส์แบบย่อส่วนมาเปิดตัวภายในงานนี้ด้วย
ด้วยชื่อแบรนด์อาจจะยังไม่คุ้นหูนัก เพราะกรีนอินโนเวทเพิ่งเข้ามาบริหารฟาร์มได้เพียง 4 เดือน แต่ถ้าถามประสบการณ์เรื่องผัก ต้องบอกว่ากรีนอินโนเวท คือ รุ่นพี่ที่มาก่อนกาลตั้งแต่ 20 ปีที่แล้ว เป็นยุคที่คนยังไม่รู้จักผักสลัดกันซักเท่าไหร่

คุณเอ้ บอกว่า เคยทำฟาร์มผักไฮโดรฯ เมื่อประมาณ 20 กว่าปีที่แล้วที่มีนบุรี เป็นฟาร์มผักไฮโดรฯแห่งแรกในประเทศไทย และได้รับการส่งเสริมจาก BOI (สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน) เป็นแห่งแรกด้วย ตอนนั้นผู้บริโภคไม่รู้จักไฮโดรโปนิกส์เท่าไหร่นัก พอเห็นผักสลัดที่มีหน้าตาประหลาดก็จะมีคำถามว่าเอาไปทำอะไรกิน ช่วงเวลานั้นเราก็เน้นให้ชิมเป็นหลัก จนถึงวันนี้ความนิยมมากขึ้นแล้วเรามีโอกาสได้กลับมาทำที่ปากช่อง มองว่าเป็นพื้นที่ที่เหมาะสม จึงเข้ามาเทคโอเวอร์ฟาร์มเดิมที่มีอยู่แล้ว ตอนนี้ทำได้ 4 เดือนแล้ว
ปัจจุบันฟาร์มผักไฮโดรโปนิกส์ของกรีนอินโนเวทแบ่งโรงเรือนเป็น 2 แบบ คือ โรงเรือนควบคุมอุณหภูมิ กับ โรงเรือนที่เป็นมุ้งธรรมดา นอกจากนี้ก็มีผักออแกนิกที่ปลูกลงดินด้วย แต่กำลังการผลิตไม่มาก เพราะมีพื้นที่น้อย ขณะที่สินค้าหลักอย่างผักไฮโดรฯที่ผลิตจะมีเกือบทุกชนิด มีพิเศษกว่าที่อื่น คือ เป็นฟาร์มที่ได้เมล็ดพันธุ์ตระกูล “เรด ซาลาโนวา” มาปลูกเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย ซึ่งพันธุ์นี้มีความโดดเด่นเรื่องความสด ตัดทิ้งไว้แล้วขอบไม่เป็นสีน้ำตาล และความสะดวกเมื่อตัดโคนครั้งเดียวใบจะหลุดออกจากหัวทั้งหมด โดยเมล็ดพันธุ์นี้แม้จะมีต้นทุนที่สูงในการปลูกมากกว่า ทั้งเรื่องราคาเมล็ดพันธุ์ อายุในการปลูกที่นานถึง 50 วัน มากกว่าผักชนิดอื่น 5 วัน แต่มีข้อดีมาก คือ แก้ปัญหาเรื่องความคงทน และ สดตลอดเวลาเมื่ออยู่บนจาน

Farm me to the moon ส่งผักให้ถึงดวงจันทร์
คุณเอ้ บอกว่า ฟาร์มที่นี่เปิดมา 15 ปีแล้ว แต่กรีนอินโนเวทเพิ่งเข้ามาบริหารได้ 4 เดือน เดิมทีฟาร์มจะมีตลาดที่เป็นร้านค้าในห้าง แต่ตอนนี้เรามองฐานลูกค้าใหม่ที่เป็นโรงแรมและร้านอาหาร เพราะเรามีคอนเซ็ปต์ คือ Farm me to the moon อยากจะปลูกผักส่งไปถึงดวงจันทร์ หมายความว่าเรามองถึงความยั่งยืนทางด้านอาหารในอนาคต ต่อให้มนุษย์ไปอยู่ดวงจันทร์ผักเราก็จะตามไปตรงนั้น ดังนั้นผักแต่ละชนิดเราจะผ่านการทดลองเรียนรู้ ทำอาร์แอนด์ดี เน้นว่ารสชาติต้องดี สารอาหารได้ และไม่มีสารเคมีตกค้าง
สำหรับรสชาติของผัก คุณเอ้ อธิบายว่า ผักแต่ละชนิดต้องมีคาแรกเตอร์เป็นของตัวเอง ยกตัวอย่างเช่น มะเขือเทศ ต้องมีเปรี้ยวแทรก มีกลิ่นของมะเขือเทศชัด หรือ ไวด์ ร็อคเก็ต กลิ่นต้องชัด รสชาติต้องละมุน เพราะคาแรกเตอร์นี้สำคัญกับเชฟตามร้านโรงแรม ร้านอาหารมากๆ เพราะกลุ่มเชฟจะมีความพิถีพิถันในการเลือก เขาจะสนใจรสชาติและความสดใหม่เป็นอันดับหนึ่ง เรื่องรูปลักษณ์เป็นเรื่องรองลงมา ขณะที่ผู้บริโภคทั่วไปสนใจที่หน้าตาก่อน เมื่อเราเข้าใจความต้องการของตลาดว่าเป็นแบบไหน เราเลยเตรียมไว้ทั้งที่สวยงาม และ มีรสชาติที่ถูกใจเชฟ
หลายคนยังกังวลเรื่องสารตกค้างในผักไฮโดรฯ
คุณเอ้ บอกว่า จุดเด่นของผักจากปากช่อง เขาใหญ่ คือ ความปลอดสาร ฉะนั้นผักของเราทุกตัวไม่ได้ใช้สารเคมีในการป้องกันโรคแมลง เราใช้ที่เป็นจุลินทรีย์ ใช้ธรรมชาติในการกำจัด มีสิ่งเดียวที่เป็นเคมี คือ ปุ๋ย ซึ่งมันคือแร่ธาตุอาหารที่สกัดมาจากกระบวนการเคมี แต่องค์ประกอบของธาตุอาหารไม่ได้ต่างจากธรรมชาติ เพราะปุ๋ยก็สกัดมาจากธรรมชาติด้วยการบวนการทางเคมี ที่สำคัญเรามีระยะเก็บเกี่ยวที่ปลอดสารตกค้าง มีการสุ่มตรวจเพื่อให้มั่นใจได้ว่าผักมีความปลอดภัยแน่นอน แล้วข้อดีของผักไฮโดรฯ คือ เราจะมีผลผลิตที่ปลอดภัยสารอาหารครบถ้วนไว้บริโภคตลอดทั้งปี โดยปัจจุบันกำลังการผลิตของกรีนอินโนเวทอยู่ที่ 100 ตัน/เดือน เน้นส่งในกรุงเทพฯ และ ชลบุรี โดยใช้รถเย็นในการขนส่งที่ต้นทุนสูง แต่ เนื่องจากปริมาณผักมากพอ เราจึงไม่ผลักภาระเรื่องราคาไปให้ผู้บริโภค
“ตอนนี้เราเตรียมบุกร้านอาหาร ตั้งใจว่าอยากจะให้เชฟที่เป็นร้านอาหารมิชลิน ถ้าได้เดินทางมาเมืองไทย ก็อยากให้ใช้ผักเรา จะได้รู้ว่าคุณภาพผักที่เมืองไทยก็ไม่ได้ต่างจากบ้านเขา”
วันนี้ยังไม่แน่ใจว่านโยบายครัวไทยสู่ครัวโลกคืบหน้าถึงไหนแล้ว แต่เมื่อซูมมาระดับท้องถิ่น จะเห็นว่าฟาร์มผัก “กรีนอินโนเวท” จากปากช่องสู่ครัวไทย เดินหน้าเต็มสูบแล้วแน่นอน