
งานคาราวาน มอเตอร์โฮม เขาใหญ่
ปักหมุด "เขาใหญ่" เมืองหลวงรถบ้าน ปลุกไฟฝันความหนุ่มสาวในหัวใจให้ลุกโชน
“Caravan and Motorhome Thailand Meeting” งานรถบ้านหนึ่งเดียวในไทยที่มีทุกอย่างครบจบในงานเดียว เริ่มจัดครั้งแรกเมื่อปี 2022 จนถึงปีนี้ที่จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 แล้ว ณ บริเวณศูนย์การเรียนรู้การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ททท. อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ว่ากันว่าเป็นงานรถบ้านที่ดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผู้ผลิตรถบ้านและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องเกือบทุกรายในไทยตั้งตารอเพื่อมาออกบูทในงานนี้ ตกค่ำยังมีกิจจกรรมที่น่าสนใจมากมาย รวมถึงดนตรีไพเราะจากศิลปินชื่อดังมาขับกล่อมให้ฟังกันทั้งคืน โดยในปีนี้กลุ่มคนรักรถบ้านให้การตอบรับเข้าร่วมงานกันอย่างคึกคักกว่า 800 คัน
เชื่อว่าการมีรถบ้านซักคันหนึ่งเพื่อใช้ท่องเที่ยวไปตามที่ต่างๆ อย่างอิสระตามแต่ใจปรารถนา ค่ำที่ไหนนอนที่นั่น ได้ใช้เวลาอันมีค่ากับเพื่อนฝูงและครอบครัวอย่างเต็มที่ คือ ความใฝ่ฝันที่ตกตะกอนนอนก้นอยู่ในใจของผู้ที่รักการเดินทางท่องเที่ยวเสมอมา

ในช่วงเวลา 3-4 ปีที่ผ่านมา รถบ้านอาจยังเป็นเรื่องใหม่มากสำหรับคนไทย แต่ไม่ใช่สำหรับเวลานี้ ที่มีแหล่งความรู้มากมายให้ศึกษาเต็มโลกออนไลน์ โดยเฉพาะในโซเชียลมีเดีย ทำให้รถบ้านเริ่มเป็นที่นิยมกว้างขวางขึ้น ถ้าสังเกตดีๆ เราจะเห็นรถบ้านวิ่งไปตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มากขึ้น
เมื่อกลุ่มคนรักรถบ้านเติบโตขยายใหญ่ขึ้นทุกวัน “คุณเต้-อวิรุทธิ์ วีระพงษ์” แห่งคลาสสิคคาร์ กรุ๊ป ผู้ที่ขลุกอยู่กับวงการรถบ้านมานานกว่า 10 ปี จึงปิ๊งไอเดียในการจัดงานของรถบ้านขึ้นโดยร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภายใต้ชื่องาน “Caravan and Motorhome Thailand Meeting” เพื่อตอบสนองเสียงเรียกร้องของกลุ่มคนที่ใฝ่ฝันอยากจะมีรถบ้าน อีกทั้งยังเป็นการนัดพบปะสังสรรค์พูดคุยแลกเปลี่ยนกันระหว่างผู้ที่ชื่นชอบเหมือนๆ กันอีกด้วย โดยในปีนี้ งาน “Caravan and Motorhome Thailand Meeting 2025” จัดขึ้นในวันที่ 8-9 กุมภาพันธ์ ที่ศูนย์การเรียนรู้การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ททท. อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
คุณเต้บอกว่า งานคาราวานแอนด์มอเตอร์โฮมปีนี้จัดเป็นปีที่ 4 แล้ว ตั้งใจอยากให้เป็นงานมอเตอร์โชว์ของรถบ้านโดยเฉพาะ จากการที่อยู่ในวงการแคมปิ้งมา มองเห็นว่าภาพรวมการเติบโตเป็นบวกทุกปี แต่ในรายละเอียดอาจจะมีบางส่วนดร็อปลง บางส่วนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนที่เพิ่มขึ้นก็คือ คาราวานและมอเตอร์โฮม ซึ่งปีนี้ให้การตอบรับมาเข้าร่วมงานกว่า 800 คัน ส่วนที่ดร็อปลง คือ เต็นท์ที่กางกับพื้น ซึ่งไม่ใช่ว่าเขาไม่ชอบแล้วนะ แต่เขาขยับมาเป็นเต็นท์บนหลังคา ขยับมาอีกจะเป็นทรัค แคมเปอร์ หรือตู้ถอดได้ ถัดมาเป็นคาราวานแบบลากจูง และขยับขึ้นมาอีก คือ มอเตอร์โฮม

“ต้องบอกว่าวงการรถบ้านที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ จะมีผู้เล่นหน้าเก่า หน้าใหม่ วนเวียนกันอยู่แบบนี้ แต่ถ้าถามภาพรวมก็ต้องตอบว่าบวกขึ้นในทุกๆ ปี ในฐานะผู้จัดงานเราจะได้ข้อมูลจากผู้ผลิต เขาสนใจมาออกบูทกันมาก อย่างงานปีนี้ผู้ผลิตที่ถูกกฎหมายเกือบๆ 100 ราย โรงงานรถบ้านทุกโรงมาอยู่ที่นี่หมด คนขายอุปกรณ์ที่เกี่ยวเนื่องกับการแคมปิ้งส่วนใหญ่อยู่ในนี้หมด ตั้งแต่คนทำช่วงล่างให้รถบ้าน ไปจนถึงคนขายตู้เย็น ทุกอย่างครบจบที่นี่ เราเห็นยอดขายในงาน จำนวนรถที่มาโชว์ในงาน จำนวนคนเข้าชมงาน ก็เห็นได้ว่าภาพมันยกขึ้นทั้งตลาด”
หากจะถามถึงจุดเด่นของรถบ้าน พูดง่ายๆ คือ ทุกอย่างที่บ้านมี รถบ้านมีหมด จุดเด่นก็คือใช้งานสะดวกสบายไม่ต้องมานั่งกางนั่งเก็บ เพียงแค่สตาร์ทรถแล้วขับรถไปถึงที่หมาย ใช้เวลาตรงหน้าแล้วก็กลับบ้าน ทุกอย่างที่เคยยาก ก็กลับกลายเป็นเรื่อง่ายดาย
“อยากบอกว่าคนใช้รถบ้านไม่ได้ใช้แค่ท่องเที่ยวนะ หลายๆ คนนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน อย่างคุณอาเรวัช กลิ่นเกษร ท่านมาร่วมงานครั้งนี้ด้วย ท่านอยู่ในรถทุกวัน ขับไปถ่ายรายการ ขับไปทำธุรกิจ สะดวกสบายมากๆ”
ต่อคำถาม “รถบ้านเหมาะกับเมืองไทยแค่ไหน” คุณเต้บอกว่า คำถามนี้คนถามบ่อย ว่ารถบ้านมันใหญ่ แล้วจะจอดที่ไหน ใช้ยังไง ถนนพอไหม ทั้งหมดทั้งมวลนี้ประเทศไทยพิสูจน์แล้วมาเป็น 10 ปี ตนเองก็อยู่ตรงนี้ 10 กว่าปีแล้ว ก็ต้องตอบว่าสามารถใช้งานได้ตามปกติ และถ้าเราศึกษาเป้าหมายที่จะไป ดูเรื่องจุดจอดรถบ้านมีตรงไหน ขอแค่ทำการบ้านสักเล็กน้อย เราก็จะใช้รถบ้านอย่างไม่ติดขัด

เมื่อมีดีมานด์ ย่อมต้องมีซัพพลาย การขยายตัวของกลุ่มรถบ้านทำให้หลายหน่วยงานที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวเริ่มขยับตามเช่นกัน อาทิ อุทยานแห่งชาติหลายแห่งเริ่มมีที่จอดรถบ้านแล้ว ขณะที่เอกชนก็เร่งขยับปรับตัว ทำแคมป์ไซต์ จุดจอดรถ เริ่มหาข้อมูลว่ารถบ้านต้องใช้อะไรบ้าง บริษัทที่ผลิตของที่เกี่ยวเนื่องกับรถบ้านก็พัฒนาเทคโนโลยีให้มีคุณสมบัติที่โดดเด่นมากขึ้น แนวโน้มที่เพิ่มขึ้นของตลาดรถบ้านในประเทศไทยจึงเป็นที่น่าจับตาอย่างมาก
ที่น่าสนใจอีกข้อ คือ กลุ่มวัยที่กำลังจะเกษียณ และเกษียณแล้วหันมาใช้รถบ้านเพิ่มขึ้น จนเป็นลูกค้ากลุ่มหลักของวงการนี้
“คนสูงอายุเนี่ย พอเขาเกษียณแล้ว เขารู้สึกว่าอยากจะท่องเที่ยว ก็จะมาซื้อรถบ้าน อยากได้รถบ้านขับไปเที่ยว แน่นอนว่ากลุ่มที่จะซื้อของก็ต้องมีกำลังก่อน อย่างเต็นท์พื้นราคาไม่แพงมากก็จะได้เด็กๆ วัยรุ่นหน่อย ส่วน มอร์เตอร์โฮมราคาสูงก็จะได้คนสูงอายุที่มีกำลังพอจะซื้อใช้งาน ซึ่งราคาจะมีตั้งแต่ 1 ล้านกว่าบาท ไปจนถึง 4 ล้านบาทก็มี”
วันนี้หากใครที่กำลังสนใจมองหารถบ้านซักคัน คุณเต้แนะนำว่า อันดับแรกเราต้องศึกษาให้ดีก่อน หาตัวเองให้เจอว่าเราต้องการอะไร ครอบครัวเราต้องการอะไร โดยในสมัยนี้ข้อมูลมีมากมายในโลกโซเชียล ค่อยๆ คิดให้รอบคอบ เพราะมองว่าไลฟ์สไตล์นี้เป็นแนวโน้มในอนาคต และจะเป็นที่นิยมไปอีกนาน ที่สำคัญประเทศไทยนั้นเหมาะกับการเที่ยวแบบรถบ้านมากๆ
“ต่างชาติที่มางานนี้ไม่ว่าจะเป็นชาวมาเลเซีย หรือชาวลาว เขาพูดว่าในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ งานรถบ้านของเมืองไทยงานนี้ดีที่สุด พอเราไปหาข้อมูลก็พบว่าต่างประเทศยังไม่มีงานแบบนี้จริงๆ”
ส่วนที่เลือกเขาใหญ่เป็นศูนย์กลางในการจัดงาน เพราะมองว่ามีความเหมาะสมในหลายๆ ด้าน
“ผมคิดว่าเขาใหญ่เป็นเหมือนเมืองหลวงของรถบ้านนะ เมืองหลวงของการแคมปิ้ง คือ เขาใหญ่เป็นอะไรที่พอคนนึกภาพก็จะมองว่าบรรยากาศชิลๆ มาง่าย มาจากไหนก็มาง่าย มาจากอีสานก็ง่าย จากเหนือก็พอได้ กรุงเทพก็ยิ่งใกล้ แล้วก็อากาศดี เขาใหญ่จึงเหมาะมากกับการพบปะสังสรรค์ของชาวแคมปิ้งครับ”
คุณเต้บอกว่า ใครที่กำลังมองหารถบ้านถือว่ามาถูกทางแล้ว เพราะความสุขของการท่องเที่ยวด้วยรถบ้าน มีตั้งแต่ออกตัวเดินทางไปจนจบทริป

“ลองหลับตานึกภาพตามนะครับ ขึ้นมาบนรถ สตาร์ทปุ๊บ ข้างหลังมีลูกนั่งดูทีวี คุณพ่อคุณแม่นั่งกินข้าวกินขนม อยากเข้าห้องน้ำก็มีบนรถ มันไม่ได้เหมือนกับการไปเที่ยวทั่วไป ที่ต้องเดินทางไปสนามบิน ไปนั่งรอ ไปเช็คอิน กว่าจะโน่นนี่นั่น ไปถึงที่เที่ยวแป๊บเดียวแล้วก็รีบกลับ ซึ่งรถบ้านไม่มีเรื่องพวกนี้ เราสบายใจ ไม่มีเวลามาควบคุมขนาดนั้น ที่สำคัญยังเปลี่ยนแผนได้ตลอดเวลา”

ด้าน “อัครวิชย์ เทพาสิต” ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ขึ้นกล่าวบนเวทีว่า ดีใจที่มีงานนี้เกิดขึ้นอีกปี ซึ่งพื้นที่ตรงนี้ของ ททท.เป็นพื้นที่ที่พิเศษมาก เราได้มาตั้งแต่ปี 2534 โดยมีวัตถุประสงค์ในการที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ ให้ทุกคนมาเรียนรู้ด้วยกัน ซึ่งที่ผ่านมาก็พิสูจน์แล้วว่าชาวแคมปิ้งเป็นนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ มีศักยภาพในการดูแลจัดการขยะ ไม่สร้างปัญหาให้กับสิ่งแวดล้อม
“โอกาสหน้าถ้าใครมาเที่ยว ก็จะได้เห็นเส้นทางเดินเทรลที่นี่ เราเริ่มทำบ่อนก และบ้านให้นกเงือก และพื้นที่โป่งผีเสื้อ ให้กลุ่มครอบครัวมาเที่ยวชมได้ ก็ต้องฝากทุกคนไว้ เพราะพื้นที่ตรงนี้เป็นที่รักของคน ททท. และคนในชุมชนปากช่อง เราอยากจะรักษาไว้ให้ได้ใช้กันไปนานๆ”

มาดูฝั่งผู้ประกอบการที่โดดเด่นในปีนี้ นอกจาก “คลาสสิค คาร์ กรุ๊ป” ที่คร่ำหวอดในวงการมอเตอร์โฮมกว่า 10 ปีแล้ว ยังมีผู้เล่นน้องใหม่ “Caravan Perfect” คาราวานหัวลากโดยคนไทยไปผลิตที่โรงงานจีน เป็นแบรนด์ไทยที่กำลังมาแรง ด้วยจุดเด่นเป็นของใหม่ป้ายแดง และราคาเอื้อมถึง ทำให้มียอดขายอันดับต้นๆ ในเวลานี้
คุณเอกพงศ์ สาตะมาน ผู้จัดการทั่วไป บริษัท คาราวาน เฟอร์เฟค จำกัด เล่าว่า ก่อนหน้านี้ในเมืองไทยไม่มีคาราวานมือหนึ่งขายเท่าไหร่ ส่วนมากเป็นนำเข้าและราคาสูง ที่ขายกันในตลาดส่วนมากจะเป็นคาราวานมือสอง ราคามีตั้งแต่ 2 แสนกว่าบาทขึ้นไปจนถึงหลักล้าน แล้ว 2 แสนกว่าบาทนี้ สภาพคือ ดูไม่ได้ ต้องไปปรับปรุง ใส่เฟอร์นิเจอร์ข้างใน คือทำๆ ไปราคาก็อยู่ที่ 7-8 แสนบาท
“เรากลับมาคิดว่าทำไมเมืองไทยไม่มีของใหม่ คือ ถ้าของใหม่จากต่างประเทศที่นำเข้ามาราคาขายอยู่ที่ 1-2 ล้านบาท ก็เกินงบไปเยอะ ทีนี้ผมเคยไปเรียนที่จีน มีภรรยาเป็นคนจีน ก็เลยคิดว่าจะมีช่องทางไหนที่จะผลิตได้บ้าง ก็ไปเจอโรงงานที่ทำส่งยุโรป เลยติดต่อไปว่าอยากทำแบรนด์ของเราเอง เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานเมืองไทย ด้วยความที่เราอยากให้ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด เลยเป็นที่มาของชื่อ คาราวาน เพอร์เฟค ถึงวันนี้เปิดขายมา 3 ปีแล้วครับ”
คุณเอกพงศ์เล่าว่า ตั้งแต่ทำมา 3 ปี ก็มียอดขายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจด้วย แต่อย่างน้อยเพิ่มขึ้น 30-50% แล้วบริษัทเราจะมีรุ่นใหม่ๆ ทยอยออกมาอีก เดี๋ยวจะมีรุ่นที่ถูกกว่านี้ เป็นไซส์เล็กลงมา ราคาเริ่มต้นที่ 2 แสนกว่าบาท ให้รถอีโค่คาร์สามารถลากได้ น้ำหนักจะเบา ทำจากไฟเบอร์กลาสหรืออะลูมิเนียม คาดว่าปลายปี หรือต้นปีหน้าก็จะออกวางจำหน่ายได้

สำหรับจุดเด่นของคาราวาน เฟอร์เฟค 1.เป็นรถของใหม่ป้ายแดง 2.ค่ำไหนนอนนั่น และต้องเอื้อต่อการใช้งานในประเทศไทย ด้วยการติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์ มีแบตลิเทียมกักเก็บไฟ ทำให้ใช้แอร์ได้นาน 8-24 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิภายนอก ซึ่งถ้าข้างนอกอุณหภูมิต่ำประมาณ 10 กว่าองศา เปิดแอร์ก็ไม่มีประโยชน์ เพราะคอมพ์แอร์จะไม่ทำงานมีแต่ลมเป่าออกมา เราก็ปิดแอร์ เปิดรับอากาศภายนอกแทน ก็จะสามารถเซฟพลังงานไว้ใช้ได้อีกหลายวัน
แล้วทำไมถึงเลือกทำ “คาราวาน”
คุณเอกพงศ์มองว่าคาราวานมีพื้นที่ใหญ่โตกว้างขวาง อยู่เป็นครอบครัวได้แบบไม่รู้สึกอึดอัด เหมือนนั่งอยู่ในคอนโดเล็กๆ เหมาะกับครอบครัวมาก ขนาดพื้นที่มีตั้งความยาว 4.5 เมตร ไปถึง 7 เมตร ความกว้าง 2.3 เมตร สามารถเข้ามาใช้เวลาอยู่ด้านในได้นานๆ โดยไม่อึดอัด ที่สำคัญเมื่อนำไปยื่นจดทะเบียนแล้วเสียภาษีเพียงปีละ 100 บาทเท่านั้น
ส่วนข้อกังวลเรื่องการใช้งานว่าจะมีความยากง่ายแค่ไหน คุณเอกพงศ์อธิบายว่า จริงๆ คนไทยชอบขับรถท่องเที่ยวอยู่แล้ว พอต้องมาลากคาราวาน การขับเดินหน้านั้นไม่ยาก แต่ถ้าถอยหลังอาจจะต้องฝึกฝนกันเล็กน้อย เพราะการบังคับมันจะสลับทิศทางกัน แต่ก็ไม่ได้ยากจนเกินความสามารถของผู้ที่รักการท่องเที่ยวแต่อย่างใด
“ผมคิดว่าคนไทยชอบเที่ยว รักอิสระ ชอบใกล้ชิดธรรมชาติ ธุรกิจรถบ้านจะยังไปต่อได้อีกไกล ต่อไปก็จะมีผู้เล่นหน้าใหม่มาแข่งขันกัน เป็นธรรมดาของธุรกิจ เพราะการตั้งแคมป์ยังเป็นไลฟ์สไตล์ที่มาแรงและยังจะอยู่อีกนาน”

ในงานนี้นอกจากจะมีผู้ผลิตสินค้าที่เกี่ยวกับรถบ้านแล้ว ผู้เข้าร่วมงานก็มีหลากหลายอาชีพ ทั้งผู้ที่มีชื่อเสียง และบุคคนทั่วใจที่ล้วนแต่มีหัวใจเดียวกัน
“พล.ต.ท.เรวัช กลิ่นเกสร” อดีตผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด หนึ่งในผู้ที่รักการตั้งแคมป์เป็นชีวิตจิตใจ ผู้ซึ่งขับมอเตอร์โฮมหลังเบิ้มมาร่วมงานนี้ด้วย พูดบนเวทีว่า เป็นคนชอบเข้าป่า ไปผูกเปลนอน จากนั้นก็เริ่มกางเต็นท์ แต่ก็เจอปัญหาเรื่องลิง ช้าง กวาง ฝน เลยตัดสินใจซื้อคาราวานรถลาก แต่พบปัญหาว่าเจอช้างแล้วถอยหลังไม่ทัน เลยเปลี่ยนเป็นรถตู้ แต่รถตู้ก็เตี้ยไปเพราะเป็นคนตัวสูง เลยคิดว่าอายุมากขึ้นแล้ว อยากได้อะไรที่ซื้อแล้วจบเลย สุดท้ายก็มาจบที่มอเตอร์โฮม ระบบโฟร์วีลไดร์ฟที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
“ผมชอบกางเต็นท์ตั้งแต่หนุ่มๆ ทำแล้วมีความสุข เวลากางเต็นท์ เราจะได้ปรัชญาชีวิตอีกแบบ มันเหมือนกับเรามีบ้านหลังเล็กๆ กระท่อมหลังเล็กๆ อาหารการกินหม้อก็เหลือใบเดียว กระทะก็เหลือนิดเดียว กินก็นิดเดียว มันได้ปรัชญาชีวิตตรงนี้ ก็ชอบมาตั้งแต่นั้น ปกติไม่ชอบคนเยอะ ไปแบบเงียบๆ แต่ที่งานนี้เหมือนเที่ยวห้างนะ (ยิ้ม) แต่ดีใจที่ได้มาเจอเพื่อนใหม่ แต่ถ้าคุณอยากได้ปรัชญาชีวิตจะต้องไปคนเดียวนะ แต่ต้องไปที่ที่ไม่อันตราย ป่าหลังบ้านก็ได้ คือเหลือตัวเราคนเดียว วันนึงตายไปก็ไม่มีใครไปด้วย ไม่ว่าพ่อแม่ญาติพี่น้อง แล้วใจเราจะสงบ”

อีกคนที่ขับรถมาจากเมืองดอกบัว อุบลราชธานี “คุณอิทธิพล รัตนสมุทร” อายุ 40 ปี ปัจจุบันทำอาชีพธุรกิจส่วนตัว
“ผมสายดื่มและก็ชอบบรรยากาศการแค้มปิ้ง ชอบมานานแล้ว อีกอย่างผมชอบรถบ้าน อยากจะซื้ออยู่แล้ว ติดตามเพจพี่เต้ คลาสสิคคาร์มานาน ก็เลยมางานนี้ มาดูว่าของจริงเป็นยังไง ส่วนตัวชอบบรรยากาศการแคมปิ้ง แล้วเขาใหญ่อากาศดีมาก ชอบมากได้เปลี่ยนบรรยากาศเดินทาง ถึงแม้จะไม่สะดวกสบายเท่าที่บ้าน คือ ปกติก็ดื่มที่บ้านอยู่แล้ว แต่มาเที่ยวก็ได้เปลี่ยนบรรยากาศ ผมว่าช่วยให้สภาพจิตใจสดชื่น ได้ผ่อนคลาย มีโอกาสก็พยายามเที่ยวในประเทศ ด้วยความที่ชอบขับรถเอง ค่ำไหนนอนนั่น ก็เลยอยากมาดูรถบ้านในงานนี้ครับ”

หันไปทางกลุ่มเต็นท์บนหลังคารถ เจอะกับคู่รักวัยเกษียณที่กำลังนั่งจิบเครื่องดื่ม พร้อมสูดอากาศยามเย็นของเขาใหญ่ด้วยสีหน้าที่แช่มชื่น “คุณวีรยุทธ ภูงามเงิน” ครูเกษียณวัย 61 ปี ควงคู่มากับคุณสุภะลักษ์ ภูงามเงินคู่ชีวิตครูเกษียณวัยเดียวกัน ที่เดินทางจากขอนแก่นเพื่อมาร่วมงานนี้ด้วย

“ผมเริ่มชอบการแคมปิ้งมาหลายปีแล้ว เป็นคนชอบผจญภัย เริ่มจากการกางเต็นท์ พอลองแล้วก็ชอบ แม่บ้านก็ชอบ ลูกก็ชอบ เรามองเห็นความสุขที่ปะปนอยู่กับความลำบาก คือ ถ้านอนอยู่บ้านก็จะสบายกว่านี้ แต่ชอบออกมา เพราะสบายเกินไปมันดูยังไงล่ะ เราออกมาเห็นธรรมชาติ เสพธรรมชาติ ดูภูเขาแม่น้ำ อากาศเย็นๆ มีความสุข ทำกับข้าวง่ายๆ ตอนกลางคืนลุกมาเข้าห้องน้ำก็เห็นดาวเต็มท้องฟ้า รู้สึกสุขในหัวใจ ตอนนี้ได้พัฒนาจากกางเต็นท์พื้นมาเป็นเต็นท์บนหลังคารถ เพราะกางพื้นก็เริ่มเหนื่อยต้องทำความสะอาดดิน พอกางบนหลังคาก็สบายขึ้น อาจจะไม่สะดวกสบายมากนัก เวลาหลับก็ไม่ถึงเต็มตื่น แต่มันมีความสุขใจที่ได้มาเสพธรรมชาติ รู้สึกว่าชีวิตได้รับครบทุกรสชาติ ส่วนที่มาร่วมงานนี้ได้ เพราะเป็นสมาชิกของ MaxxEQUIP เป็นการมาเขาใหญ่ครั้งแรกเลยครับ ชอบมาก บรรยากาศดีมาก”
อย่างที่ใครๆ พูดกันไว้ ว่าความสุขนั้นอยู่ที่ใจ ความสุขของใครก็ความสุขของมัน ขอแค่หาให้เจอแล้วใช้เวลากับสิ่งนั้นให้คุ้มค่า เพียงเท่านี้ชีวิตเราจะต้องการอะไรอีก…ว่ามั้ย