
ถึงเวลาเร่งแก้ปัญหาช้างป่าเขาใหญ่
ก่อนความรุนแรงจะทวีคูณ
1.
คนกับช้าง ระเบิดเวลาที่น่ากลัว
และแล้วสิ่งที่ทีมทำงานเรื่องช้างป่าออกนอกพื้นที่เขาใหญ่หวั่นใจที่สุดก็เกิดขึ้นจนได้
ช่วงประมาณ 4 โมงเย็นของวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา เจ้าของไร่ข้าวโพด บ้านเขาวง ตำบลหนองน้ำแดง อำเภอปากช่อง คว้าปืนลูกซองยิงขึ้นฟ้าเพื่อขับไล่เจ้าพลายเบี่ยงเล็ก ช้างป่าหนุ่มวัยฉกรรจ์ ที่บุกรุกเข้ามายังพื้นที่เกษตรกรรมของเขา และยังตามมายิงไล่หลังอีกหลายนัด แม้ช้างจะมีเจ้าหน้าที่อาสาสมัครเดินตาม และออกพ้นเขตพื้นที่การเกษตรไปแล้วก็ตาม
ไม่มีใครรู้เจตนาที่แท้จริงของผู้ถือปืน แต่ในอีกสองวันถัดมาเจ้าหน้าที่อาสาได้สังเกตเห็นรอยแผล 2 รอยบนตัวของพลายเบี่ยงเล็ก ซึ่งยังไม่สามารถสรุปได้ว่าบาดแผลนั้นเกิดจากอะไร เนื่องจากภายหลังมันใช้ดินโคลนพอกผิวเอาไว้ ทำให้ทีมสัตวแพทย์มองไม่ถนัดนัก
ถ้าแผลติดเชื้ออีกไม่เกิน 5 วันจะมีหนองไหลออกมา แต่ถ้าแผลสมานได้เองก็จะแห้งไปในที่สุด
นี่คือความรุนแรงครั้งแรกจากคนในพื้นที่เขาใหญ่ และก็เป็นครั้งแรกเช่นเดียวกัน ที่พลายเบี่ยงเล็กเริ่มมีพฤติกรรมรุนแรงมากขึ้น
เป็นไปได้ไหมว่าหมู่บ้านเขาวงเกือบทั้งหมดเป็นพื้นที่เกษตรกรรม การที่ช้างป่าบุกเข้ามาจึงเป็นความวิตกกังวลของคนในพื้นที่ เมื่อไม่รู้จะขับไล่ด้วยวิธีไหน จึงเลือกใช้ความรุนแรง บ้างใช้การจุดระเบิดปิงปองหรือประทัด กระทั่งการยิงปืน เพื่อขับไล่ช้างให้ออกจากพื้นที่เพื่อรักษาทรัพย์สินของตนเองไม่ให้เกิดความเสียหาย ซึ่งส่งผลให้ช้างเริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมไปในทิศทางที่รุนแรงขึ้นอย่างชัดเจนตามไปด้วย
พลายเบี่ยงเล็ก เป็นช้างป่า 1 ใน 9 ตัวที่เหยียบย่างออกนอกพื้นที่ป่ามายังชุมชนในพื้นที่เขาใหญ่ และยังคงเป็นช้างหนุ่มที่ตื่นตาตื่นใจกับภูมิทัศน์ใหม่ๆ โดยเฉพาะพื้นที่เกษตรกรรมอย่างบ้านเขาวง ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชผลหลากหลาย ทำให้มันย้ายมาปักหลักอาศัยนอนตามราวป่าตีนเขาวงตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนเป็นต้นมา จากอุทยานถึงบ้านเขาวงหากขีดเป็นเส้นตรงจะมีระยะประมาณ 5-8 กิโลเมตร แต่ถ้าใช้เส้นทางที่มันเดินก็นับได้ราว 20 กิโลเมตรเศษ
ความรุนแรงระหว่างคนกับช้างสดๆ ร้อนๆ ที่เกิดขึ้นนี้ สร้างความหวั่นใจให้กับทีมงานอาสาสมัครไม่น้อย เพราะไม่อาจคาดเดาได้ว่าในอนาคตปัญหาช้างกับคน หรือคนกับคน จะทวีความรุนแรงขึ้นกว่าอีกมากน้อยเพียงใด
ดังนั้นสิ่งที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นกระทรวงมหาดไทย กรมอุทยาน สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ต้องดำเนินการเร่งด่วน คือ ต้องเร่งสร้างความชัดเจนเรื่องขอบเขตหน้าที่การทำงานร่วมกัน เพื่อสร้างเอกภาพให้เกิดขึ้น ให้ทุกฝ่ายเดินหน้าไปในทิศทางเดียวกันให้เร็วที่สุดก่อนที่จะเกิดความสูญเสียที่ไม่อาจเรียกคืนได้
2.
อำเภอปากช่องต้องเร่งออกระเบียบเพื่อกำหนดทิศทางการทำงานที่ชัดเจน
จากการประชุมเรื่องการแก้ปัญหาช้างป่าออกนอกพื้นที่ครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา จัดโดยสมาคมสัตววิทยาแห่งลอนดอน (ZSL) ประเทศไทย สมาคมนิเวศยั่งยืน อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กลุ่มรักษ์เขาใหญ่ มูลนิธิฟรีแลนด์ กลุ่มอนุรักษ์สัตว์ป่า และสิ่งแวดล้อมเขาใหญ่ โดยได้เชิญผู้เกี่ยวข้องได้แก่ ตัวแทนกำนันผู้ใหญ่บ้าน ตัวแทนสำนักอนุรักษ์ที่ 1 รวมถึงผู้เชี่ยวชาญเรื่องช้าง นายสัตวแพทย์ปานเทพ รัตนากร มาร่วมหาข้อสรุปเพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาช้างออกนอกพื้นที่เขาใหญ่แบบยั่งยืน
เบื้องต้นได้ข้อสรุป ดังต่อไปนี้
1.ต้องจัดทำบัตรอาสาสมัครพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (อส.อส.) ให้อาสาสมัครทุกคนใหม่ รวมทั้งฝั่ง ต.โป่งตาลอง ต.หมูสี และอาสาสมัครที่เกี่ยวข้อง
2.จัดตั้งชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน(ชรบ.) ตามอำนาจของกำนัน 15 คน โดยให้ผู้ใหญ่บ้านไปปรึกษากำนันในเรื่องนี้ เพื่อจะมาเสริมกับอาสาสมัครเฝ้าระวังช้างป่า
3.เรื่องการใช้อุปกรณ์ AI ด้วยการใช้กล้องติดตามจุดต่างๆ ที่เป็นเส้นทางของช้าง และมีศูนย์ควบคุมดูแลเรื่องข้อมูล AI
4.เรื่องการจัดตั้งงบประมาณสำหรับการจัดซื้อกล้อง และอุปกรณ์ AI
5.นำข้อสรุปเรื่องข้อตกลงมาตรการปฏิบัติงานของอาสาสมัครเฝ้าระวังช้างป่า และบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเรื่องการเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่าพื้นที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา นำเสนอให้นายอำเภอจัดทำเป็นแผนประกาศออกมาเพื่อความชัดเจน และความเป็นระเบียบเรียบร้อยในการทำงาน
สำหรับข้อตกลงมาตรการปฏิบัติงานของอาสาสมัครเฝ้าระวังช้างป่านี้เป็นข้อสรุปจากเวทีการประชุมเชิงปฏิบัติการ การเพิ่มศักยภาพภาคีเครือข่ายเพื่อการจัดการช้างป่าอย่างยั่งยืน กลุ่มดงพญาเย็นเขาใหญ่ ปีที่ 2 ภายใต้โครงการวิจัยและพัฒนาต้นแบบเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืนระหว่างคนกับช้างในประเทศไทย โดยสรุปมาได้ 18 ข้อ ดังนี้
1.อาสาสมัครเฝ้าระวังช้างป่า และ ผลักดันช้างป่าของชุมชน ต้องได้รับการรับรองการเป็นอาสาสมัครเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่าโดยอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ในภารกิจการผลักดันช้างป่า เพื่อร่วมปฏิบัติงานกับเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 และประกาศคณะกรรมการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ2567
2.อาสาสมัครเฝ้าระวังช้างป่า และผลักดันช้างป่าของชุมชน ต้องผ่านการอบรมการเฝ้าระวังและป้องกันช้างป่าของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช อย่างน้อย 2 ครั้ง ก่อนได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยเจ้าเจ้าหน้าที่คัดเลือกโดยหัวหน้าอาสาสมัครและผู้ใหญ่บ้าน โดยบูรณาการร่วมระหว่างอำเภอปากช่องและอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
3.ห้ามดื่มสุราและของมึนเมาระหว่างปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงห้ามพกพาของมึนเมาไปด้วยขณะปฏิบัติหน้าที่
4.การผลักดันช้างให้มีการกำหนดไปในทิศทางเดียวกัน ตามเส้นทางที่ทำข้อตกลงระหว่างหมู่บ้าน โดยมีเจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็ว อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ประสานเมื่อเกิดการข้ามเขตหมู่บ้าน เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งระหว่างคนในชุมชน ความเสียหายแก่พืชผล และทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่
5.ออกปฏิบัติหน้าที่เฝ้าระวังผลักดันช้างป่าด้วยความพร้อมทางร่างกาย ไม่เจ็บป่วย หากมีอาการเจ็บป่วยห้ามออกปฏิบัติหน้าที่
6.อาสาสมัครเฝ้าระวังช้างป่าต้องแจ้งผู้ใหญ่บ้าน และแจ้งเจ้าหน้าที่ชุดป้องกันเฝ้าระวังช้างป่าของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ก่อนออกปฏิบัติหน้าที่ โดยแจ้งผ่านทางโทรศัพท์หรือแอพพลิเคชั่นไลน์
7.ไม่เข้าพื้นที่ที่ไม่ได้รับอนุญาตโดยเฉพาะพื้นที่ส่วนบุคคล ต้องแจ้งเจ้าของพื้นที่ หรือแจ้งผู้ใหญ่บ้านก่อน หรือได้รับความยินยอมจากเจ้าของพื้นที่ ก่อนเข้าทำการเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่า
8.เพื่อความปลอดภัย ไม่ควรปฏิบัติงานผลักดัน และควบคุมทิศทางช้างป่าน้อยกว่า 3 คน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อทีมเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่า
9.เพื่อความปลอดภัยและการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ควรรักษาระยะห่างจากช้างป่าไม่น้อยกว่า 50-100 เมตร และไม่ยั่วยุช้างป่าระหว่างผลักดัน
10.เจ้าหน้าที่อาสาปฏิบัติตามคำสั่งของหัวหน้าชุดอาสา และหัวหน้าชุดพนักงานเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังผลักดันช้างป่า
11.ห้ามใช้อาวุธปืนในการผลักดันช้าง หรือทำร้ายช้างให้บาดเจ็บ หรือใช้ความรุนแรงใดๆ ต่อตัวช้างป่า
12.ห้ามมิให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องขณะปฏิบัติหน้าที่ ทำการถ่ายทอดสด หรือ เข้าดักถ่ายรูปช้างในขณะทำการผลักดันช้าง เพราะอาจขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ และอาจเกิดอันตรายได้ ยกเว้นเฉพาะการถ่ายคลิปขนาดสั้น หรืถ่ายรูปเพื่อทำรายงานโดยอาสาสมัครหรือ เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังผลักดันช้างป่า
13.ห้ามพาเยาวชน และบุคคลไม่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติหน้าที่ เข้าไปในพื้นที่ขณะปฏิบัติหน้าที่เฝ้าระวังและผลักดันช้างป่า
14.กำหนดแผนการปฏิบัติงานในแต่ละครั้งให้มีเป้าหมายในการพาช้างป่าไปสู่พื้นที่ปลอดภัยทั้งคนทั้งช้าง
15.รายงานผลการปฏิบัติงาน และแจ้งจุดสุดท้ายที่พบช้างป่าต่อผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานเฝ้าระวัง และผลักดันช้างป่าของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และ พันธุ์พืช
16.กำหนดให้มีการประชุมประจำเดือนของอาสาสมัครเพื่อทบทวนการทำงานและการปฏิบัติหน้าที่
17.อาสาสมัครเฝ้าระวังช้างป่า ต้องติดบัตรอาสาสมัครเฝ้าระวังช้างป่า ที่ออกโดยอำเภอปากช่องและอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
18.ห้ามนำสัตว์เลี้ยงไประหว่างปฏิบัติหน้าที่เฝ้าระวังช้างป่า
3.
ระยะยาว ต้องเอาช้างออกจากชุมชน
นายสัตวแพทย์ปานเทพ รัตนากร ให้ความเห็นว่า ในระยะสั้นเราต้องทำตามแผนที่สรุปมา คือ การติดกล้องตามจุดต่างๆ เพื่อมอนิเตอร์ได้ทันท่วงที เพราะช้างป่าที่ออกนอกพื้นที่เขาใหญ่ 9 ตัว วันนี้อาจจะเห็นว่าน่ารัก แต่อีก 3 ปีจะเอาไม่อยู่แล้ว ส่วนระยะยาวต้องเอาช้างออก อาจจะใช้วัฒนธรรมดั้งเดิม คือ การคล้องช้าง แล้วใช้ยาเพื่อเคลื่อนย้ายช้างออกนอกชุมชนไปไว้ในที่ไหนก็ต้องคิดกันต่อ
อย่างไรก็ตาม ปัญหาช้างเขาใหญ่จะไม่หมดแค่ 9 ตัวนี้ เพราะธรรมชาติ ช้างตัวผู้ที่เจริญวัยจะถูกดีดออกจากโขลง ยังไงก็ต้องจะต้องลงมาที่ชุมชนอีก แล้วมันจะชักนำกันมา ฉะนั้นเมื่อช้างยังอยู่ในวัยที่เคลื่อนย้ายได้ก็ต้องเร่งระบายออกไป
ขณะที่ พระอธิการกัมปนาท สุเขธิโต เจ้าอาวาสวัดหมูสี ประธานกลุ่มอนุรักษ์สัตว์ป่า และสิ่งแวดล้อมเขาใหญ่ กล่าวว่า ปัญหาช้างป่าของหมู่บ้านเขาวงที่เริ่มรุนแรงขึ้น เพราะทุกพื้นที่เป็นการทำเกษตร พืชไร่ พืชสวน ที่เขาก็หวงแหนทรัพย์สินของตัวเอง เมื่อช้างป่าบุกเขาก็จะไม่สนใจกฎระเบียบในการผลักดันช้าง เมื่อมีเจ้าหน้าที่เข้าไปก็เกิดความขัดแย้งในทางปฏิบัติ จนทำให้เกิดปัญหาที่รุนแรงมากขึ้น ทั้งช้าง และมนุษย์
“ล่าสุด เคสของพลายเบี่ยงเล็กที่ตรงดิ่งไปที่ครัวของคุณยายที่กำลังทำกับข้าวในตอนเช้าตรู่ คุณยายเห็นช้างก็ตกใจ ผละหนีจากตรงนั้น ช้างซึ่งตอนกลางคืนไม่รู้ว่าเจอกับอะไรที่กดดันมาบ้าง ทำให้มันเกิดความไม่ไว้วางใจ ช้างก็ขู่วิ่งเข้าใส่ ยายก็ยิ่งหนีขึ้นบนเขา แล้วพลัดตกจากก้อนหิน ซึ่งไม่เคยเกิดมาก่อนในเขาใหญ่ โดยปกติช้างจะหลบหรืออยู่เฉยๆ แต่ครั้งนี้ผละเข้าหามนุษย์ แล้วคนก็ตกใจ คุณยายรีบวิ่งหนีไปอย่างลนลาน ซึ่งต้องบอกว่าพฤติกรรมของช้างในตอนเช้าจะน่ากลัวที่สุดต้องระมัดระวัง เมื่อไม่รู้ว่าในตอนกลางคืนมันเจออะไรมาบ้าง”
พระอธิการกัมปนาท บอกว่า เราต้องเร่งทำกฎระเบียบออกมาเพื่อให้การแก้ปัญหาเป็นเอกภาพ เพราะเรื่องนี้จะทวีความรุนแรงขึ้นในปีสองปีนี้อย่างแน่นอน อาจจะมีการยิงช้างตายจากอารมณ์ชั่ววูบ หรือคนอาจจะโดนช้างเหยียบตาย ดั้งนั้นทั้งฝ่ายอนุรักษ์ก็ดี ฝ่ายปกครองก็ดี ต้องเร่งสร้างกฎระเบียบให้สอดคล้องกับการทำงาน
“แต่ในระยะสั้นนี้ พระอาจารย์จะเร่งหาพื้นที่เพื่อสร้างคอกกักกันเป็นการชั่วคราว ก่อนที่จะเกิดความสูญเสียที่ไม่อาจเรียกกลับคืนมาได้”
© 2025 Khaoyai Connect. สงวนลิขสิทธิ์
ห้ามคัดลอก ดัดแปลง หรือเผยแพร่เนื้อหาทั้งหมดหรือบางส่วนโดยไม่ได้รับอนุญาต