
Farewell to Maman
ปิดฉากอำลา “มามอง” (Maman) อย่างสวยงามเมื่อค่ำคืนวันที่ 16-17 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่ Khaoyai Art Forest โดยหลังจากนี้ประติมากรรมชิ้นตำนานของ “หลุยส์ บูร์ชัวส์” (Louise Bourgeois) ศิลปินชาวฝรั่งเศส-อเมริกัน จะถูกส่งกลับไปยังมูลนิธิ The Easton Foundation ที่นิวยอร์กตามเดิม
งานทั้งสองวันถือเป็นการอำลา “มามอง” งานศิลปะระดับนานาชาติอย่างสมศักดิ์ศรี นอกจากจะได้เดินเสพงานศิลปะตามจุดต่างๆ ในป่าราวกับการเดินจาริกแสวงบุญแล้ว กิจกรรมในงานก็เป็นกิจกรรมที่เติมเต็มจิตใจไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นเวิร์กช้อป “Eco-Printing” สร้างภาพพิมพ์จากพืชพรรณธรรมชาติ โดยนำดอกไม้ใบไม้สีสันต่างๆ มาทุบใส่ผ้าเพื่อให้เกิดสีและลาย สร้างความสนุกสนานให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมอย่างมาก
การทำ Mandala ศิลปะสร้างสมาธิ โดยคุณชาลิสา วีรวรรณ ที่นำมันดาลา สัญลักษณ์วงกลมที่เปรียบได้กับจักรวาลอันกว้างใหญ่มาประยุกต์ด้วยการนำวัสดุธรรมชาติในเขาใหญ่มาวางประกอบกันเป็นสัญลักษณ์มันดาลา ไม่ว่าจะเป็นดิน ปุ๋ย กิ่งไม้ เมล็ดพันธุ์ แล้วให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมมาปั้นก้อนดิน หรือ Seed Bomb เอาไว้ขว้างไปในป่า ซึ่งเป็นเทคนิคการปลูกป่าที่อยู่ลึกไม่สามารถเดินไปถึง
“มันดาลา แปลว่า วงกลม แล้วแต่ว่าใครจะนิยามแบบไหนขึ้นอยู่กับวัฒนธรรมของที่นั้นๆ แต่จริงๆ ก็พูดถึงจักรวาล วงจรของชีวิต ถ้าไปให้ลึกขึ้นอีกก็เหมือนกับมาสู่แก่นของตัวเอง จักรวาลอันกว้างใหญ่ เรากลับสู่แก่นของเรา เหมือนเราเดินทางกลับสู่แก่นแท้ของตัวเอง” คุณชาลิสา กล่าว
และที่สร้างความประทับใจให้กับผู้เข้าร่วมงาน ได้รับเสียงปรบมือยาวนาน คือ การแสดงโขนแบบดั้งเดิมในมุมมองร่วมสมัย ตอนนางสีดาสรงน้ำ กับ ศึกอินทรชิต จากเรื่องรามเกียรติ์ โดย“จิตติ ชมพี”
จิตติ ชมพี บอกว่า การแสดงโขนดั้งเดิมในวันนี้ เป็นงานต่อเนื่องจากโครงการเกร็ดโขน ของกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม เป็นนักแสดงจากกรมศิลปากร โดยเราจะคัดเลือกบางตอนแยกออกมาเล่า แล้วไฮไลท์เนื้อหาที่คนด้านนอกคิดไม่ถึงได้ชมกัน อย่างการแสดงครั้งนี้เรามาอยู่ในป่า ก็จะคัดเลือกฉากนางสีดาสรงน้ำมาไว้ที่นี่ หรือ ฉากที่ไปเล่นตรงมามองเราก็จะคัดตอนที่เป็นแม่กับลูกมาแสดง คือ ตอนศึกอินทรชิตที่โดนศรพรหมมาศของพระลักษณ์แล้วกลับไปหานางมณโฑผู้เป็นแม่ ขอดื่มนมแม่ จนสามารถถอนพิษได้ ซึ่งตอนนี้ก็จะเข้ากันกับประติมากรรม “มามอง” แมงมุมยักษ์ที่แทนความเป็นแม่ ด้วยมุมมองแบบนี้ก็จะทำให้คนเข้าถึงโขนดั้งเดิมได้ไม่ยาก
ปิดท้ายค่ำคืนด้วยดินเนอร์ จากเชฟวุฒิ ผู้ดูแลโครงการเชฟแคร์ ของคุณมาริษา เจียรวนนท์ ผู้ก่อตั้ง Khaoyai Art Forest ด้วยการคัดสรรวัตถุดิบจากเขาใหญ่เกือบทั้งหมดมาใช้ปรุงอาหารได้อย่างน่าประทับใจ
คุณมาริษา กล่าวสั้นๆ ถึงงานอำลามามองในครั้งนี้ว่า การทำ Khaoyai Art Forest วัตถุประสงค์เน้นเรื่องการเยียวยาด้วยพลังของธรรมชาติ การเชื่อมโยงระหว่างคนกับธรรมชาติ รวมถึงการทำเกษตร อาหาร การศึกษา และ นวัตกรรม เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายแต่ได้พยายามทำให้เกิดขึ้นเพื่อให้เกิดความยั่งยืน และ มื้อดินเนอร์วันนี้ไม่ใช่เพียงแค่การจัดสวยงาม แต่ล้วนเป็นวัตถุดิบจากเขาใหญ่ และมีคุณค่าทางอาหารครบครัน ต้องขอขอบคุณแขกทุกท่านที่มาร่วมงาน หวังว่าจะมีความสุขในการร่วมงานวันนี้
ถือเป็นการปิดฉากอำลาเจ้าแมงมุมยักษ์ได้อย่างน่าประทับใจ ส่วนหลังจากนี้จะมีงานศิลปะชิ้นไหนมาแทนที่มามองยังไม่แน่ชัด แต่รับประกันว่าไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
© 2025 Khaoyai Connect. สงวนลิขสิทธิ์
ห้ามคัดลอก ดัดแปลง หรือเผยแพร่เนื้อหาทั้งหมดหรือบางส่วนโดยไม่ได้รับอนุญาต