คณะกรรมการมหกรรมพืชสวนโลกลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมความพร้อม “โคราช เอ็กซ์โป 2029”
ชมเปาะมีความพร้อมจัดงานระดับโลก
วันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา คณะกรรมการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกจังหวัดนครราชสีมา 2572 หรือ โคราช เอ็กซ์โป 2029 ได้จัดงานต้อนรับคณะกรรมการจากสมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ หรือ AIPH (International Association of Horticultural Producers) ซึ่งเดินทางมาตรวจเยี่ยมพื้นที่เชิงลึกเพื่อประเมินความพร้อมในการจัดงาน ที่โรงแรมเดอะลาบาริส เขาใหญ่
![]()
สืบเนื่องจากจังหวัดนครราชสีมาได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดงานพืชสวนโลก (ประเภท A1) ซึ่งเป็นการจัดงานมหกรรมพืชสวนขนาดใหญ่ที่สุด โดยจะจัดขึ้นที่โคกหนองรังกา ต.เทพาลัย อ.คง จ.นครราชสีมา ระหว่างวันที่ 10 พ.ย. 2572 - 28 ก.พ. 2573 ภายใต้ธีม "ธรรมชาติและพรรณพืชเขียวขจี อนาคตแห่งโลกสีเขียว" มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมพืชสวนและเศรษฐกิจของประเทศ
สำหรับงานระดับ A1 นี้ จะมีการจัดทุก 5-10 ปี มีธีมครอบคลุมเรื่องโลกสีเขียว การพัฒนาเมือง และสังคม ภายในงานจะมีการเชิญประเทศต่างๆ ที่เป็นสมาชิกมหกรรมพืชสวนมาจัดแสดงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการเกษตรของตน ดังนั้นจึงถือเป็นมหกรรมที่ยิ่งใหญ่ โดยจะมีผู้คนจากทั่วโลกหลั่งไหลเข้าร่วมงานครั้งนี้
![]()
ด้านคณะกรรมการจากสมาคมพืชสวนระหว่างประเทศที่มาตรวจเยี่ยมในครั้งนี้ประกอบด้วย นายลิโอนาร์โด คาปิตานีโอ ประธานคณะกรรมการพืชสวนโลก นางคาเรน แทมบายัง ผู้แทน AIPH ประจำเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย นายทิม บริเออร์คลิฟฟ์ เลขาธิการใหญ่คณะกรรมการพืชสวนโลก นายทากุฮิโร ยามาดะ รองประธานคณะกรรมการพืชสวนโลก นายวอยเชียค มาร์ซิน วโรเบลฟสกี้ ผู้แทน AIPH ประจำยุโรปตะวันออกและยุโรปกลาง และนางสาวเอเลนา เทเรโควา ผู้จัดการฝ่ายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยมีผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้บริหาร และทีมงานสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. จังหวัดนครราชสีมา และตัวแทนภาคเอกชนของเขาใหญ่ให้การต้อนรับ
![]()
นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวต้อนรับด้วยความรู้สึกยินดีที่คณะกรรมการจากสมาคมพืชสวนระหว่างประเทศมาตรวจเยี่ยมอีกครั้ง พร้อมรายงานความคืบหน้าว่า รัฐบาลไทยยืนยันถึงความพร้อมในการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกในครั้งนี้ โดยนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และยังได้แต่งตั้งคณะกรรมการทำงาน ซึ่งตนเองได้รับมอบหมายให้เป็นรองเลขาธิการของคณะกรรมการจัดงาน นอกจากนี้ ตนและตัวแทนจาก สสปน. ได้เดินทางไปประเทศฝรั่งเศสเพื่อเข้าพบและรายงานความคืบหน้าต่อองค์การนิทรรศการนานาชาติ (Bureau International des Expositions หรือ BIE) พร้อมกับได้รับคำแนะนำการจัดงานจากนายดิมิทรี เอส เคอร์เคนเซส เลขาธิการของบีไออีในการประชุมสมัชชาใหญ่ประจำปีครั้งที่ 177 ด้วย
![]()
“นายดิมิทรีได้กล่าวชื่นชม และ มั่นใจในความพร้อมของประเทศไทยที่จะเป็นเจ้าภาพ พร้อมให้คำแนะนำว่า การจัดงานพืชสวนโลกทั้งในปัจจุบันและอนาคตจะต้องคำนึงถึงภาพกว้างในทุกมิติมากกว่าการเพียงแค่สวนพฤกษศาสตร์ และยังต้องสามารถต่อยอดในเรื่องการลงทุนและธุรกิจได้ด้วย ในส่วนของการเชิญชวนประเทศต่างๆ ที่จะมาจัดแสดงงานนั้น ให้เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ และในส่วนของมาสเตอร์แพลนของการจัดงานนั้นให้เน้น “น้อยแต่มาก หรือ Less is More” ส่วนด้านการเข้าชมจะต้องสะดวก ง่ายต่อการเข้าถึง สามารถสัมผัสทุกประสบการณ์ได้ ซึ่งเราเองจะจัดงานโดยคำนึงถึงการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยรอบคอบและจำกัด ตอบโจทย์การใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้การเป็นเจ้าภาพในครั้งนี้เป็นไปได้โดยสมบูรณ์และดีที่สุด ภายใต้แนวคิด “ธรรมชาติ และพรรณพืชเขียวขจี อนาคตแห่งโลกสีเขียว(Nature & Greenery: Envisioning the Green Future)”
![]()
นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ที่เพิ่งมารับตำแหน่งใหม่หมาด กล่าวว่า ในนามของชาวโคราช รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่คณะกรรมการมหกรรมพืชสวนโลกมาตรวจเยี่ยมความคืบหน้าในการจัดงานครั้งนี้
“ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จังหวัดมีนโยบายการพัฒนาที่มีมาตรการด้านสิ่งแวดล้อม การจัดการเมืองสีเขียวจากการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ซึ่งเป้าหมายของจังหวัดคือการยกระดับในโคราชเป็นเมืองที่น่าอยู่ และมีการบริหารจัดการอย่างยั่งยืน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน สำหรับความก้าวหน้าของงานมหกรรมระดับโลกในครั้งนี้ ทางจังหวัดให้ความสำคัญอย่างมาก มีการบูรณาการการทำงานกับภาครัฐและเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถาบันการศึกษา และเครือข่ายชุมชนในการจัดทำแผนงานที่สอดคล้องกับเงื่อนไขของ AIPH นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการเพิ่มพื้นที่สีเขียว การส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียว ซึ่งการเยี่ยมชมครั้งที่ 2 ของคณะกรรมการมหกรรมพืชสวนโลกในครั้งนี้มีความสำคัญมาก เพราะจะทำให้เราได้นำเสนอความพร้อมและความตั้งใจในการเป็นเจ้าภาพ ที่สะท้อนให้เห็นถึงความยั่งยืน นวัตกรรม และความร่วมมือระดับนานาชาติ ตลอดจนการได้รับคำแนะนำ เพื่อให้การจัดงานครั้งนี้ประสบความสำเร็จสูงสุด”
ในท้ายที่สุด ผู้ว่าราชการจังหวัดยังได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะจัดงานด้วยความโปร่งใส รับผิดชอบ และมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ โดยหวังว่าการเยี่ยมชมในครั้งนี้จะเห็นถึงศักยภาพและความมุ่งมั่นของจังหวัดในการสร้างเมืองสีเขียวและมีความยั่งยืน
![]()
นายลิโอนาร์โด คาปิตานีโอ ประธานคณะกรรมการพืชสวนโลก กล่าวว่า งานมหกรรมพืชสวนโลก (ประเภท A1) 2029 เป็นงานที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด คณะผู้แทนรู้สึกขอบคุณสำหรับการต้อนรับและให้ความสำคัญกับมรดกอันยาวนานของเมืองเจ้าภาพ การมาที่นี่ในครั้งนี้ก็เพื่อรับฟังวิสัยทัศน์จากเจ้าภาพ ทั้งในด้านการท่องเที่ยวและการพัฒนาเศรษฐกิจ
“ผมรู้สึกมั่นใจในความสามารถ ความมุ่งมั่น และความคิดสร้างสรรค์ของภูมิภาคนี้ที่จะเป็นเจ้าภาพจัดงานระดับโลกดังกล่าวได้ งาน A1 ถูกเน้นย้ำว่าเป็นเวทีที่ทรงพลังในการนำนวัตกรรมมาจัดแสดง และเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้คนนำไปปรับสู่วิถีชีวิตที่ยั่งยืน คณะกรรมการมหกรรมพืชสวนโลกมีความปรารถนาที่จะเสริมสร้างมิตรภาพและสร้างความร่วมมือที่แข็งแกร่ง เพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกันต่อไป”
![]()
ด้านนางปาริชาติ พจนศิลป์ นักวิชาการเกษตรระดับชำนาญการ กลุ่มวิชาการ สถาบันวิจัยพืชสวนกรมวิชาการเกษตร ได้รายงานถึงไทม์ไลน์และความคืบหน้าด้านการเตรียมจัดงานระบุว่า เลขาธิการใหญ่ของ BIE ระบุในการประชุมสมัชชาใหญ่ครั้งที่ 177 ที่ประเทศฝรั่งเศสว่าประเทศไทยมีความพร้อมในการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก 2029 หลังจากนั้นทีมประเทศไทยได้มีการจัดตั้งคณะทำงานอย่างเป็นทางการขึ้นมาโดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน พร้อมตั้งคณะอนุกรรมการการทำงานแบ่งเป็น 1.การเตรียมพื้นที่และก่อสร้าง 2.ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ 3.การประชาสัมพันธ์ 4.นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ เนื้อหาวิชาการ และกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ 5.การอำนวยความสะดวก 6.การบริหารรายได้และสิทธิประโยชน์ โดยในปี 2569 จะมีการเข้าร่วมกระบวนการรับรองจาก BIE ในการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก ระดับ A1 (กำหนดการเบื้องต้น มิถุนายน 2569) จากนั้นจะมีการร่างแผนแม่บท พร้อมทั้งทำการจัดซื้อและจัดจ้างผู้จัดงาน หลังจากนั้นในปี 2570 จึงจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างและปลูกพืชพรรณต่างๆ ซึ่งแผนการดำเนินงานต่างๆ ในเบื้องต้นเป็นไปตามไทม์ไลน์ด้วยดี
![]()
ขณะที่นายสุคนธ์ เต็มยศยิ่ง ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง ซึ่งรับผิดชอบเรื่องการบริหารจัดการน้ำภายในงานมหกรรมพืชสวนโลกให้รายละเอียดว่า ข้อมูลปริมาณน้ำฝน 10 ปีย้อนหลัง มีประมาณ 1,223 มิลลิเมตรต่อปี คิดเป็นประมาณ 1.3 ล้านลูกบาศก์เมตร สำหรับแหล่งน้ำที่จะใช้สนับสนุนงานมหกรรมพืชสวนโลกก็คือ “ลำสะแก” ที่อยู่ด้านหน้า ซึ่งอยู่ห่างไปประมาณ 10 กิโลเมตร สำหรับคุณภาพน้ำ มีการตรวจเช็คแล้วพบว่ามีความเหมาะสมในการปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยตั้งแต่ปี 2564-2568 มีโครงการพัฒนาและขุดรอกแหล่งน้ำมาโดยตลอดได้ปริมาณน้ำสะสม 1.5 ล้านล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งในระหว่างการเตรียมงานจะให้น้ำประมาณปีละ 600,000 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งนับว่ามีปริมาณน้ำเพียงพอต่อการจัดงาน และในปี 2570 เรามีแผนจะสร้างอาคารบังคับน้ำ 2 แห่ง ในบริเวณจัดงาน มีการเตรียมดินเพื่อให้มีความชุ่มชื่น มีโครงการสูบน้ำจากแก้มลิงมาสนับสนุนอีกปีละ 300,000 ลูกบาศก์เมตร ทำให้เป็นเครื่องยืนยันถึงปริมาณและคุณภาพน้ำที่เพียงพอในการจัดงาน
Uploading image...![]()
นายไพจิตร มานะศิลป์ ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมาในฐานะผู้กำกับดูแลเรื่องการคมนาคมของงานพืชสวนโลกรายงานว่า เรื่องการเดินทางมายังภาคตะวันออกเฉียงเหนือถือว่ามีความสะดวก เรามีทางรถไฟความเร็วสูง และมีมอเตอร์เวย์สาย M6 ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จและรอเปิดให้บริการในเร็ววันนี้ สามารถเชื่อมต่อจากกรุงเทพมหานครได้อย่างรวดเร็ว โดยในตัวเมืองนครราชสีมาเองก็จะมีรถซิตี้ลิงก์ที่ครอบคุลมคอยให้บริการ นอกจากนี้ยังจะมีรถบัสโดยสารจากสนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง ขอนแก่น และบุรีรัมย์คอยให้บริการด้วย และเราได้ร่วมมือกับการรถไฟแห่งประเทศไทย เตรียมรถไฟขบวนพิเศษมายังสถานที่จัดงาน โดยจะทำการออกแบบเป็นพิเศษให้เข้ากับธีมของงานด้วย เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้รับประสบการณ์พิเศษน่าประทับใจ และขบวนรถเร็วสายตรงจากกรุงเทพฯ-นครราชสีมาด้วย
![]()
นางสาวพันชนะ วัฒนเสถียร นายกสมาคมท่องเที่ยวเขาใหญ่ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า นอกจากจะได้รับฟังความคืบหน้าของการเตรียมงานจากอธิบดีกรมการเกษตร ผู้ว่าราชการจังหวัด หอการค้าจังหวัดแล้ว คณะกรรมการพืชสวนโลกยังได้ให้ข้อคิด และข้อแนะนำในการเตรียมการที่จะให้คณะทำงานไปขับเคลื่อนกันต่อ
“ต่อจากนี้เราต้องตอบให้ได้ว่าจะจัดงานกันยังไงให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม ไม่ว่าจะเป็นคนในพื้นที่ จังหวัด และ ประเทศ โดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่ซึ่งเป็นเศรษฐกิจฐานราก เราต้องตั้งเป้าการพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวม หรือ BCG Model ซึ่งเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวม ที่จะพัฒนาเศรษฐกิจ 3 มิติไปพร้อมกัน ได้แก่ เศรษฐกิจชีวภาพ( Bioeconomy) มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรชีวภาพเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยเน้นการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) คำนึงถึงการนำวัสดุต่างๆ กลับมาใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด และทั้ง 2 เศรษฐกิจนี้อยู่ภายใต้เศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) ซึ่งเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจที่ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงการพัฒนาเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ต้องพัฒนาควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคมและการรักษาสิ่งแวดล้อมได้อย่างสมดุลให้เกิดความมั่นคงและยั่งยืนไปพร้อมกัน”
![]()
นางสาวพันชนะ กล่าวอีกว่า สิ่งที่สำคัญอีกอย่าง คือ เรื่อง Legacy Plan หรือ การธำรงไว้ซึ่งมรดกหลังการจัดงานว่าเราจะให้อะไรในระยะยาว นอกจากนี้ยังมีเรื่องแผนความยั่งยืน โดยเฉพาะเรื่องของสิ่งแวดล้อม การจัดการหลังจบงาน ซึ่งคณะกรรมการเน้นเรื่องนี้มากๆ และอยากฟังจากเราซึ่งเป็นทีมจัดงานว่ามีแผนที่จะต้องเตรียมการและจัดการอย่างไร
“ส่วนเขาใหญ่ เราถือว่าเป็นปากประตูสู่อีสาน เราจึงออกแบบประสบการณ์การเดินทางเอาไว้ เพราะคนที่จะมางานพืชสวนโลก คงไม่ได้พุ่งตรงไปที่อำเภอคงเลยทีเดียว โดยเฉพาะถ้าเดินทางมาทางรถยนต์ ยังไงก็ต้องผ่านปากช่องก่อน เราจึงมีการเตรียมการร่วมกับทุกภาคส่วนในพื้นที่ โดยเฉพาะเรื่องการท่องเที่ยวเชิงเกษตร การท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ และยังชูเรื่องโคราชเมือง 3 มรดกโลกของยูเนสโกด้วย”
นอกจากเวทีต้อนรับในวันนี้ ที่บริเวณหน้าหน้าห้องประชุมยังมีการจัดแสดงของภาคเอกชนที่พร้อมมีส่วนร่วมกับงานมหกรรมพืชสวนโลกในครั้งนี้อย่างคึกคัก
![]()
ประกอบด้วย Trekking Thailand ที่นำภาพถ่ายสัตว์ป่าที่เป็นเอกลักษณ์ของเมือง 3 มรดกโลกมาจัดแสดง อาทิ ชะนีพันธุ์ผสมที่มีเฉาะที่เขาใหญ่ และยังไม่มีชื่อวิทยาศาสตร์อย่างเป็นทางการ ภาพตุ๊กแกสายพันธุ์ต่างๆ รวมถึงตุ๊กแกบิน ภาพของไก่ฟ้าพญาลอซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของประเทศไทย ภาพนกเงือก และช้างไทย
![]()
ขณะที่ The Piano Resort นำชาบัวแดงมาชงให้คณะกรรมการมหกรรมพืชสวนโลกได้ชิม ซึ่งทุกคนต่างประทับใจในรสชาติ และสรรพคุณพิเศษช่วยลดความดันและช่วยให้หลับง่าย พร้อมทั้งยังนำเสนอแผนการเวิร์กช็อปด้าน Wellness ที่กำลังก่อสร้าง โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนมีนาคมปี 2569 เตรียมความพร้อมรองรับทั้งชาวไทยและต่างชาติที่จะเดินทางมางานมหกรรมพืชสวนโลกในอีก 4 ปีข้างหน้า
![]()
ถัดมาบูธของ Khorat Geopark ที่ได้ประชาสัมพันธ์เมือง 3 มรดกโลกของจังหวัดนครราชสีมา ขณะที่ สวนผักปากช่องนำผัดสดชนิดต่างๆ มาจัดแสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรและอากาศที่บริสุทธิ์ของปากช่อง พร้อมเสิร์ฟซุปเห็ดนางรมสุดอร่อย และ “ผำฉะ” ชงพร้อมดื่ม สร้างความตื่นตาให้กับคณะกรรมการอย่างมาก
![]()
![]()
จากนั้นวิสาหกิจชุมชนบ้านท่าช้างก็ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์และสถานที่ท่องเที่ยว โดยเฉพาะ “น้ำผุด” ที่ใสกระจ่าง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของเขาใหญ่ ตบท้ายด้วย Farm Me by Green Innovate ที่นำเสนอนวัตกรรมการปลูกผักเพื่ออุตสาหกรรมอาหาร แสดงศักยภาพฟาร์มผักใหญ่ระดับประเทศ นำเอามะเขือเทศและพริกหวานนานาชนิดมาให้ชิม รวมไปถึงผัก “ไมโครกรีน” ที่นอกจากจะอร่อยและอุดมไปด้วยสรรพคุณด้านโภชนาการแล้ว ยังเป็นการลดโลกร้อน เพราะใช้เวลาปลูกเพียง 7 วัน ลดการปล่อยคาร์บอนได้อย่างมาก ที่สำคัญ Farm Me ยังเน้นการทำงานกับร้านอาหารในท้องถิ่นเพื่อลดการขนส่งอีกด้วย
![]()
การต้อนรับคณะกรรมการมหกรรมพืชสวนโลกในครั้งนี้เต็มไปด้วยความพร้อมเพรียงจากทีมงานของทั้งสามหน่วยงานหลัก และเอกชนทุกภาคส่วนของจังหวัดนครราชสีมา เพราะทุกฝ่ายตระหนักดีว่างานมหกรรมพืชสวนโลก ระดับ A1 คืออีเวนต์สำคัญระดับโลกที่จะสร้างประโยชน์ให้กับประชาคนไทยจำนวนมาก และ จะเป็นความภาคภูมิใจที่ผู้เกี่ยวข้องทุกคนจะได้แสดงพลังความยิ่งใหญ่ของคนไทยให้ปรากฎแก่สายตาโลกอีกครั้ง
© 2025 Khaoyai Connect. สงวนลิขสิทธิ์
ห้ามคัดลอก ดัดแปลง หรือเผยแพร่เนื้อหาทั้งหมดหรือบางส่วนโดยไม่ได้รับอนุญาต
